หะยีเซะ, ., นภาพรรณสกุล, ., วิรุฬพาณิช, ., Hayeese, <., Naphapunsakul, M., & Wiroonpanich, . (2014, May 18). ปัจจัยส่วนบุคคล การสนับสนุนทางสังคม และการรับรู้ความสามารถของตนเองของมารดาที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการอบรมเลี้ยงดูบุตรวัยก่อนเรียนของมารดามุสลิมที่สูญเสียสามีจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
The Influences of Personal Factors, Social Support, and Mothers’ Perceived Self-Efficacy on Mothers’ Behaviors in Pre-School Child Rearing of Muslim Mothers Who Had Lost Their Husbands in the Unrest Area of Narathiwat Province. Songklanakarin : E-Journal of Social Sciences & Humanities [Online], 20(1). Available: https://kaekae.oas.psu.ac.th/ojs/psuhsej/viewarticle.php?id=1057.

ปัจจัยส่วนบุคคล การสนับสนุนทางสังคม และการรับรู้ความสามารถของตนเองของมารดาที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการอบรมเลี้ยงดูบุตรวัยก่อนเรียนของมารดามุสลิมที่สูญเสียสามีจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
The Influences of Personal Factors, Social Support, and Mothers’ Perceived Self-Efficacy on Mothers’ Behaviors in Pre-School Child Rearing of Muslim Mothers Who Had Lost Their Husbands in the Unrest Area of Narathiwat Province

วนิสา หะยีเซะ, คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
มยุรี นภาพรรณสกุล, คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วันธณี วิรุฬพาณิช, คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

Wanisa Hayeese, Faculty of Nursing, Prince of Songkla University
Mayuree Naphapunsakul, Faculty of Nursing, Prince of Songkla University
Wantanee Wiroonpanich, Faculty of Nursing, Prince of Songkla University

Abstract

This predictive study aimed to identify the influences of personal factors, social support, and mothers’ perceived self-efficacy on mothers’ behaviors in pre-school child rearing of Muslim mothers who had lost their husbands in the unrest area of Narathiwat province. The sample comprised 113 mothers who had lost their husbands and had a pre-school child aged 3 to 6 years. The data were collected using four questionnaires developed by the researcher: mothers and children’s demographic data; social support; mothers’ perceived selfefficacy; and mothers’ behaviors in pre-school child rearing. The questionnaires were tested for content validity by three experts and for reliability using Cronbach’s alpha coefficient. The Cronbach’s alpha coefficients of social support, mothers’ perceived self-efficacy, and mothers’ behaviors in pre-school child rearing were 0.78, 0.93, and 0.89 respectively. The data were analyzed using descriptive statistics and stepwise multiple regression analysis. The results revealed that 1) For personal factors, most mothers had education up to secondary school level or less (66.4%). Most families were extended family (78.4%) and 71.7 percent of mothers had pre-school child rearing experience, 2) The mean total of social support, mothers’ perceived selfefficacy, and mothers’ behavior in pre-school child rearing were at moderate, high, and high level respectively and 3) Stepwise multiple regression analysis showed that 57 percent of the variance of the mothers’ behaviors in pre-school child rearing was explained by mothers’ perceived self-efficacy and mothers child rearing experience (p < 0.001). The results of the study suggest that nurses should promote mothers’ perceived self-efficacy in order to improve mothers’ behaviors in pre-school child rearing.

Keywords: mothers’ behaviors in pre-school child rearing, mothers’ perceived selfefficacy, Muslim mothers who had lost their husband in the unrest area, social support

บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงทำ นาย (Predictive study) เพื่อศึกษา ปัจจัยส่วนบุคคล การ สนับสนุนทางสังคม และการรับรู้ความสามารถของ ตนเองของมารดา ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการอบรม เลี้ยงดูบุตรวัยก่อนเรียนของมารดามุสลิมที่สูญเสียสามี จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส กลุ่มตัวอย่างเป็น มารดามุสลิมที่สูญเสียสามีจาก สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสที่มี บุตรวัยก่อนเรียน 3-6 ปี โดยผู้วิจัยกำหนดขนาดกลุ่ม ตัวอย่างจากตารางสำเร็จรูป กล่าวคือขนาดประชากร 160 ราย จะมีขนาดกลุ่มตัวอย่าง 113 ราย และเก็บ รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่พัฒนาโดยผู้วิจัย ประกอบด้วย 4 ชุด คือ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล ของมารดาและบุตร แบบสอบถามการสนับสนุนทาง สังคม แบบสอบถามการรับรู้ความสามารถของตนเอง ของมารดา และแบบสอบถามพฤติกรรมการอบรมเลี้ยง ดูบุตรวัยก่อนเรียน ตรวจสอบความตรงของเนื้อหา โดย ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 ท่าน และตรวจสอบความเที่ยง ของเครื่องมือ โดยการคำนวณหาค่าสัมประสิทธิ์ อัลฟาครอนบาค (Cronbach’s alpha coefficient) ได้ ค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาครอนบาค เท่ากับ 0.78, 0.93 และ 0.89 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยาย และสถิติการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยส่วนบุคคล มารดาส่วนใหญ่ มีระดับการศึกษาตํ่ากว่าหรืออยู่ในระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น (ร้อยละ 66.4) ลักษณะครอบครัวส่วนใหญ่เป็น ครอบครัวขยาย (ร้อยละ 78.4) และส่วนใหญ่มี ประสบการณ์การอบรมเลี้ยงดูบุตรวัยก่อนเรียน 3-6 ปี มาก่อน (ร้อยละ 71.7 ), 2) การสนับสนุนทางสังคม โดยรวมอยูใ่ นระดับปานกลาง ( X = 2.39, S.D. = 0.31) การรับรู้ความสามารถของตนเองของมารดาโดยรวม อยู่ในระดับมาก ( X = 2.94, S.D.= 0.41) และ พฤติกรรมการอบรมเลี้ยงดูบุตรวัยก่อนเรียนโดยรวม อยู่ในระดับมาก ( X = 2.91, S.D. = 0.35) ตามลำดับ และ 3) ผลการวิเคราะห์โดยใช้สถิติการวิเคราะห์ ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน พบว่า การรับรู้ความ สามารถของตนเองของมารดา และประสบการณ์การ อบรมเลี้ยงดูบุตรของมารดา สามารถร่วมทำนาย พฤติกรรมการอบรมเลี้ยงดูบุตรวัยก่อนเรียนของ มารดามุสลิมที่สูญเสียสามีจากสถานการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสได้ร้อยละ 57 อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ (p < 0.001) ผลการวิจัยครั้งนี้ให้ข้อเสนอแนะ ว่า พยาบาลควรส่งเสริมการรับรู้ความสามารถของ ตนเองของมารดามุสลิมที่สูญเสียสามีจากสถานการณ์ ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสในการอบรม เลี้ยงดูบุตรวัยก่อนเรียน เพื่อช่วยให้มารดามีพฤติกรรม การอบรมเลี้ยงดูบุตรวัยก่อนเรียนที่เหมาะสม

คำสำคัญ: การรับรู้ความสามารถของตนเองของ มารดา, การสนับสนุนทางสังคม, พฤติกรรมการอบรมเลี้ยงดูบุตรของ มารดา, มารดามุสลิมที่สูญเสียสามีจาก สถานการณ์ความไม่สงบ

Full Text: PDF




Copyright for articles published in this journal is retained by the authors, with first publication rights granted to the journal. By virtue of their appearance in this open access journal, articles are free to use, with proper attribution, in educational and other non-commercial settings.

Original article at: https://kaekae.oas.psu.ac.th/ojs/psuhsej/viewarticle.php?id=1057