ละสิ, ., คูหา, ., เชิงเชาว์, ., Leasi, <., Kuha, A., & Churngchow, . (2011, October 12). ผลของการใช้การเรียนรู้ด้วยตนเองที่มีต่อความเข้าใจในการอ่านวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
Effects of Using Self-Directed Learning on English Reading Comprehension of Mattayom Suksa Five Students. Songklanakarin : E-Journal of Social Sciences & Humanities [Online], 17(3). Available: https://kaekae.oas.psu.ac.th/ojs/psuhsej/viewarticle.php?id=896.

ผลของการใช้การเรียนรู้ด้วยตนเองที่มีต่อความเข้าใจในการอ่านวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
Effects of Using Self-Directed Learning on English Reading Comprehension of Mattayom Suksa Five Students

ฮาร์ตินี เ ละสิ, ภาควิชาจิตวิทยาและการแนะแนว,คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
อริยา คูหา, ภาควิชาจิตวิทยาและการแนะแนว,คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ชิดชนก เชิงเชาว์, ภาควิชาประเมินผลและวิจัยทางการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

Hartini Leasi, Department of Psychology and Guidance, Faculty of Education, Prince of Songkla U
Ariya Kuha, Department of Education Measurement and Evaluation, Faculty of Education, Prince
Chidchanok Churngchow, Department of Education Measurement and Evaluation, Faculty of Education, Prince

Abstract

The purposes of this research were to investigate the effects of using self-directed learning on English Reading Comprehension of Mattayom Suksa five students. The subjects of this study were 120 Mattayom Suksa five students from Darunsatwitaya School, Pattani in the second semester, academic year 2007, which were randomly assigned into two groups, 60 students each. The experiment group was taught through a self-directed learning whereas the controlled group was taught through traditional teaching on Reading comprehension for 10 weeks each. The apparatuses composed of 1) 1 lesson plan for preparing for readiness of both self-directed learning and traditional learning 2) 4 lesson plans by using self-directed learning 3) 4 lesson plans for traditional learning 4) a reading comprehension test with the reliability of .86. After the end of the experiment, the subjects were administered the test. The data were analyzed by using generalized randomized block design fixed model. The findings revealed that the students who was taught by using self-directed learning had higher scores on English reading comprehension than those who was taught through traditional learning at level of significant .001

Keywords: English reading comprehension, self-directed learning

บทคัดย่อ
บทคัดย่อ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเข้าใจในการอ่านวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 ที่ได้รับการสอนโดยใช้การเรียนรู้ด้วยตนเองและการสอนแบบปกติ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปที ี่ 5 ของโรงเรียนดรุณศาสนว์ ิทยา ปตั ตานี ในภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษาที่ 2550 ซึ่งไดม้ าโดยการสุม่ แบบ 2 ขั้นตอน จำนวน 120 คน สุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 60 คน กลุ่มทดลองได้รับการสอนโดยใช้การเรียนรู้ด้วยตนเอง และกลุ่ม ควบคุมได้รับการสอนด้วยวิธีสอนแบบปกติ โดยใช้เวลา 10 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 คาบ เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับนักเรียนที่ใช้การเรียนรู้ด้วยตนเองและการสอนแบบปกติ จำนวน 1 แผน 2) แผนการจัดการเรียนรูก้ ารสอนโดยใชก้ ารเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง จำนวน 4 แผน 3) แผนการจัดการเรียนรู้ การสอนแบบปกติ จำนวน 4 แผน 4) แบบทดสอบความเข้าใจในการอ่านวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่น .86 เมื่อสิ้นสุดการทดลองกลุ่มตัวอย่างทำแบบทดสอบความเข้าใจในการอ่านวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน วิเคราะห์ข้อมูล ดว้ ยการวิเคราะหค์ วามแปรปรวนแบบสุม่ ในบล็อกทั่วไป ผลการวิจัย พบวา่ นักเรียนที่ไดรั้บการสอนโดยใชก้ ารเรียนรู้ ด้วยตนเองมีความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษสูงกว่านักเรียนที่ได้รับการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001

คำสำคัญ: การเรียนรู้ด้วยตนเอง, ความเข้าใจในการอ่านวิชาภาษาอังกฤษ

Full Text: PDF



Copyright for articles published in this journal is retained by the authors, with first publication rights granted to the journal. By virtue of their appearance in this open access journal, articles are free to use, with proper attribution, in educational and other non-commercial settings.

Original article at: https://kaekae.oas.psu.ac.th/ojs/psuhsej/viewarticle.php?id=896