ทองคำ, ., ทองคำ, ., หิรัญรัตนธรรม, ., Thongkum, <., Thongkum, T., & Hirunrattanatham, J. (2008, July 16). ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัยของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ในเขตเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี
Factors Affecting Helmet Wearing Behavior of High School Motorcyclists in Surat Thani Municipality. Songklanakarin : E-Journal of Social Sciences & Humanities [Online], 14(2). Available: https://kaekae.oas.psu.ac.th/ojs/psuhsej/viewarticle.php?id=527.

ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัยของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ในเขตเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี
Factors Affecting Helmet Wearing Behavior of High School Motorcyclists in Surat Thani Municipality

ปราณี ทองคำ, ภาควิชาประเมินผลและวิจัยทางการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ทวี ทองคำ, ภาควิชาประเมินผลและวิจัยทางการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
จีราพร หิรัญรัตนธรรม, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี

Pranee Thongkum, Department of Educational Evaluation and Research, Faculty of Education, Prince
Thawee Thongkum, Department of Educational Evaluation and Research, Faculty of Education, Prince
Jiraporn Hirunrattanatham, Surat Thani Provincial Health Office

Abstract

This research aimed to study factors involving characteristics and motorcycle riding styles effecting on helmet wearing behavior of high school motorcyclists in Surat Thani Municipality. The samples were 322 high school students from 10 mainstream and vocational schools in Surat Thani Municipality, drawn by accidental random sampling. The research instrument consisted of a questionnaire. The data were analyzed by stepwise multiple regression, t-test, and F-test. It found that eighty-seven percent of high school motorcyclists in Surat Thani Municipality rode their motorcycles within their community area, thirty-five percent had no driving license and forty-six percent had one to five years of riding experiences. The riding distance of seventy-nine percent of the samples was at 1-10 kilometres and the speed used in riding of sixty-seven percent of the samples was at 40-60 kilometres per hour. Factors affecting helmet wearing behavior of high school motorcyclists were the attitude toward helmet wearing, school types and knowledge about helmet. All factors could predict helmet wearing behavior of high school motorcyclists in Surat Thani Municipality by fifty-eight percent. Students’ attitude towards helmet wearing was statistically significant different depending on sex, age and riding speed. The students’ knowledge about helmet was statistically significant different according to sex variables.

Keywords: accident, helmet, motorcycle, Surat Thani province, traffic

บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยด้านคุณลักษณะและรูปแบบการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ส่งผลต่อ พฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ของนักเรียน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับมัธยม ศึกษาตอนปลาย สายสามัญและอาชีวศึกษาที่ขับขี่รถจักรยานยนต์จาก 10 โรงเรียน ในเขตเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี จำนวน 322 คน สุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม ทดสอบสมมติฐานโดยวิเคราะห์ การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน การทดสอบที และการทดสอบเอฟ ผลการวิจัยพบว่านักเรียนระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย เขตเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี ร้อยละ 87 ขับขี่รถจักรยานยนต์ภายในชุมชน ร้อยละ 35 ไม่มีใบอนุญาต ขับขี่ ร้อยละ 46 มีประสบการณ์ในการขับขี่รถจักรยานยนต์ 1-5 ปี ร้อยละ 79 ขับขี่รถจักรยานยนต์แต่ละวันเป็น ระยะทาง 1-10 ก.ม. และร้อยละ 67 ใช้ความเร็วที่ใช้ขับขี่ 40-60 ก.ม./ช.ม. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการสวมหมวก นิรภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ ของนักเรียน ได้แก่ เจตคติต่อการสวมหมวกนิรภัย ประเภทสถานศึกษาและความรู้ เกี่ยวกับหมวกนิรภัย ปัจจัยทั้งหมด สามารถพยากรณ์พฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ของ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เขตเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี ได้ร้อยละ 58 ทั้งนี้เจตคติต่อการสวมหมวกนิรภัย ของนักเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติตามตัวแปรเพศ อายุ และความเร็วในการขับขี่ ส่วนความรู้เกี่ยวกับ หมวกนิรภัยของนักเรียนแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติตามตัวแปรเพศ

คำสำคัญ: การจราจร, รถจักรยานยนต์, สุราษฎร์ธานี, หมวกนิรภัย, อุบัติเหตุ

Full Text: PDF




Copyright for articles published in this journal is retained by the authors, with first publication rights granted to the journal. By virtue of their appearance in this open access journal, articles are free to use, with proper attribution, in educational and other non-commercial settings.

Original article at: https://kaekae.oas.psu.ac.th/ojs/psuhsej/viewarticle.php?id=527